แถวไหน
อยากกิน/หาร้าน


คอมเม้นต์รีวิวทั้งหมด

คอมเม้นต์ทั้งหมดจากทุกร้าน มารวมกันที่นี่

ค้นหาคอมเม้นต์ที่คุณต้องการ

หรือ
คอมเม้นต์ทั้งหมด(309)
Showing 301-309 from 309 total

คอมเม้นต์ที่ 1
(20 ก.ย. 2016 ตอน 03:55 น)
คุ้มค่า อร่อย สด สะอาด บรรยากาศดี สุดชิลล์ @ ร้าน Plu House สัตหีบ พลูตาหลวง
รสชาติ
บรรยากาศ
บริการ
คุ้มค่า

วันนี้มาไกลถึงสัตหีบกันเลยครับ มาพบกับร้านอาหารสุดเด็ดที่ห้ามพลาดอีกร้านนึง "พลูเฮ้าส์" ครับ
ร้านกว้างขวางมากๆ มีทั้งส่วนในร่มและส่วนกลางแจ้ง รวมไปถึงร้านกาแฟน่ารักๆ ที่แปลกกว่าร้านอื่นคือ มีสระว่ายน้ำด้วยครับ! เป็นสระของทางร้านเองเลย มีห้องน้ำห้องแต่งตัวเตรียมไว้ให้พร้อม ว่ายน้ำเสร็จก็ทานอาหารหรือทานขนมต่อได้เลย เยี่ยมจริงๆครับ
สำหรับเมนูแนะนำที่ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดก็มี ปลากระพงทอดสมุนไพร ที่นำเนื้อปลากระพงหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆไปทอดจนกรอบเหลือง คลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรรสชาติดี, ยำแซลม่อนวาซาบิ ที่นำเนื้อแซลมอนปรุงสดมายำเข้ากับน้ำยำที่มีกลิ่นและรสของวาซาบิอย่างชัดเจน เพิ่มความจัดจ้านด้วยพริกขี้หนู แซ่บเว่อครับจานนี้, เห็ดหอมนึ่งหมูสับไข่เค็ม จานนี้ดูภายนอกอาจจะเฉยๆ แต่พอได้ลองจริงๆแล้วขอบอกว่าอร่อยมากๆ หมูสับผสมกับไข่เค็มโปะบนเห็ดหอม นำไปนึ่งจนสุกแล้วราดน้ำปรุงสูตรเด็ด เต็มหวานกลมกล่อมครับ
หรือท่านใดชอบอาหารจานเดียว ก็มีให้บริการนะครับ ขอแนะนำ ข้าวผัดเขียวหวานปลาสลิดไข่เค็ม, ข้าวผัดน้ำพริกนรกปลาสลิด, ข้าวผัดคั่วกลิ้งหมู สามจานนี้แซ่บสุดใจเลยครับ ข้าวผัดผัดมาได้แห้งร่วน หอมเครื่องแกงทุกจาน
ขนมของหวานทีร้านนี้ก็ไม่ธรรมดา มีให้บริการทั้งปังปิ้งทั่วไป ไปจนถึงบิงซูยอดฮิตเลยครับ

สนใจอ่านReview ฉบับเต็มได้ที่
> https://goo.gl/2lTGx8 < ขอบคุณครับ


"พลูเฮ้าส์ (Plu House)" ครับถ้าขับรถผ่านไปไวๆ นึกว่าส่วนกลางสโมสรของหมู่บ้านซะอีกแต่ไม่ใช่ครับ เป็นร้านอาหารครับ หน้าร้านมีที่จอดรถรองรับได้เยอะมากอยู่ครับ
เป็นรูป: บรรยากาศ

สระว่ายน้ำเหมือนเป็นจุดเด่นของร้านเลยครับ ลงไปเล่นได้นะครับติดต่อทางร้านได้เลยค่าบริการไม่แน่ใจครับ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้บริการด้วยครับ
เป็นรูป: บรรยากาศ

บรรยากาศภายในร้านส่วนของร้านกาแฟครับเมื่อก่อนใช้ชื่อว่า "A lot of LOVE" แต่ตอนนี้รวมเป็นส่วนนึงของร้านอาหารพลูเฮ้าส์แล้วครับ
เป็นรูป: บรรยากาศ

เป็นรูป: บรรยากาศ

อร่อยเพลินชิลล์มีดนตรีสดด้วยอยู่จนค่ำอย่างสบายใจเลยครับ ใครผ่านไปแถวนั้นต้องไปลองให้ได้ครับเด็ดจริงร้านนี้
เป็นรูป: บรรยากาศ
แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ
davidevans
(ไม่ใช่สมาชิก)

BTS-ทองหล่อ
คอมเม้นต์ที่ 1
(20 ก.ย. 2016 ตอน 19:11 น)
shocked by the rudness

unbelievable time at this awful place, the rudest Japanese lady i have ever had the misfortune to meet and she was the owner!! i was polite,well dressed and i don't drink,so no idea why she was so rude.avoid!!

แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ

BTS-อโศก
MRT-สุขุมวิท
คอมเม้นต์ที่ 3
(23 เม.ย. 2013 ตอน 20:24 น)
มานั่งชิลๆ
รสชาติ
บรรยากาศ
บริการ
คุ้มค่า

ลองเมนู apple cinnamon ราคาขำๆ รสชาติใช้ได้เลยครับ อร่อยดี


Apple Cinnamon Roll ราคาสามสิบกว่าบาท ใช้ได้เลย
เป็นรูป: อาหาร
แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ

คอมเม้นต์ที่ 2
(8 ต.ค. 2016 ตอน 16:46 น)
ร้านอาหาร สัตหีบ คุ้มมาก อาหารอร่อย พลูเฮ้าส์ Plu House
รสชาติ
บรรยากาศ
บริการ
คุ้มค่า

ไปเที่ยวโซนสัตหีบ พัทยา เมื่อเดือนที่แล้ว ขอแวะมารีวิวร้านอาหารบรรยากาศดี ที่ไปกินกันมาที่สัตหีบนะคับ ร้านที่เราไปกินกันมาชื่อร้านพลูเฮ้าส์ Plu House Restaurant & Cafe อยู่ในซอยสนามกอล์ฟพลูตาหลวง (หรือซอยอ่างเก็บน้ำภูติอนันต์)

[Location] พิกัดร้าน
จากตัวเมืองสัตหีบวิ่งไปตามถนนสุขุมวิท จนถึงแยกกม.6 เลี้ยวเข้าไปในซอยสนามกอล์ฟพลูตาหลวง (หรือซอยอ่างเก็บน้ำภูติอนันต์) วิ่งตรงไปประมาณ 2 กิโลเมตร สังเกตุหมู้บ้านพลูตาหลวงไพรเวทฮิลล์ ด้านซ้ายมือ ร้านพลูเฮ้าส์จะอยู่ด้านหน้าของหมู่บ้านเลย

[Decor]
เข้าไปดูในร้านกันต่อ ร้านนี้ค่อนข้างมีพื้นที่กว้าง รวมๆแล้วมีหลายโซนทีเดียว พื้นที่หลักๆจะเป็นห้องแอร์มีโต็ะอาหารอยู่ 7-8 โต๊ะ เหมาะสำหรับช่วงกลางวันอากาศข้างนอกร้อนๆหน่อย ภายในร้านตกแต่งสวยงามประดับด้วยกระเช้าดอกไม้สีสันสดใส หลากหลายอัน มีพร็อบดอกไม้เก๋ๆทั้งดอกไม้จริง ดอกไม้เทียม หลายๆมุมภายในร้าน || อีก2-3โซนของร้านนี้ก็วิวดีเช่นกัน เช่นโซนเอ้าท์ดอร์ ด้านหน้าร้าน จะเห็นวิวภูเขาเขียวๆอยู่ไกลๆ เหมาะสำหรับมานั่งช่วงเย็นๆตอนที่ไม่มีแดดแล้ว และมีโซนโต๊ะอาหารอยู่ริมสระน้ำ ด้านหลังของร้าน วิวดีทีเดียว ได้คุยกับพี่เจ้าของร้านเขาบอกว่า สระว่ายน้ำยังไม่ได้เปิดให้บริการจริงๆจังๆ แต่หากเด็กๆอยากขอมาเล่นน้ำ ก็ลงได้ มีสระเด็ก สระผู้ใหญ่พร้อม และยังมีชิงช้า , ศาลา A Lot of Love พร้อมกับพร็อบถ่ายรูปเก๋ๆภายในร้านอีก ช่างเอาใจคนเซลฟี่จริงๆ สำหรับใครอยากหามุมถ่ายรูปเก๋ๆ ไม่ควรพลาดร้านนี้ มีมุมให้นั่งเล่น ถ่ายรูปเยอะจริง


[Foods]
เข้าเรื่องอาหารกันเลยละกัน ร้านพลูเฮ้าส์ สัตหีบนี้ จากที่ดูในเล่มเมนูส่วนใหญ่จะเน้นไปทางอาหารไทยเป็นหลัก+ซีฟู้ดบ้าง + อาหารจีนโผล่ๆมาบ้าง ราคากลางๆคับ ไม่ถูกไม่แพง เหมาะสำหรับมากินกันเป็นครอบครัวได้สบายๆเลย

-ปลากะพงทอดราดยำสมุนไพร (320 บาท)
ปลากะพงตัวใหญ่พอประมาณ แลเอาเนื้อปลาเป็นคำๆไปทอดให้สุก แล้วค่อยเอาโครงปลาทั้งตัวไปทอดต่อ ราดมาด้วยน้ำยำสมุนไพร ครบครันสารพัดด้วย ขิง ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง พริกแดง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ให้มาเยอะมากทีเดียว ตักทานสะดวกดี เพราะร้านหั่นปลาออกมาเป็นชิ้นๆไปทอดให้สุกเหลืองก่อนแล้ว
รสชาติปลาดี ไม่มีกลิ่นคาว รสน้ำยำใช้ได้ แต่เครื่องที่ราดมาด้านบนคือเยอะมาก (เรียกว่าถมทีเลยดีกว่า) ทานๆไปบางทีมีอยู่รู้สึกเหมือนกันเมี่ยงคำอยู่ 555

- กุ้งอบวุ้นเส้นหม้อดิน (160 บาท)
ตอนมาเสิร์ฟเปิดฝาออกมานี้ กลิ่นเครื่องเทศหอมยั่วใจมากๆ ตัววุ้นเส้นทำออกมาดี เส้นเหนียวหนึบผัดแล้วน้ำซอสปรุงรสมันแทรกอยู่ในตัววุ้นเส้นกำลังดี กุ้งตัวใหญ่พอสมควร ร้านผ่ากลางหลังตัวกุ้งมาให้แล้วด้วย ทำให้แกะกุ้งกินได้ง่าย

- ลาบเป็ดคั่ว (120 บาท)
เป็ดสับออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมแคบหมูเข้ามาด้วย รสชาติจานนี้จัดจ้านมากๆ มาพร้อมผักเคียงทั้ง แตงกวา กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาวและใบพลู

- ยำแซลมอนวาซาบิ (140บาท)
แซลมอนสไลด์ชิ้นขนาดพอๆกับร้านขายปลาดิบเลย เอาไปลวกให้สุกกำลังดี ทำออกมาเป็นยำที่รสชาติจัดจ้านพอสมควร ตัวน้ำยำมีความเป็นไทยด้วยพริกขี้หนู หอมแดง ตะไคร้ซอย คื่นช่าย และผสมวาซาบิลงไปด้วย แต่ส่วนตัวผมว่าวาซาบิยังใส่น้อยไปหน่อย ยังไม่ค่อยได้รสชาติของวาซาบิแบบจี๊ดๆขึ้นจมูกเหมือนตอนกินอาหารญี่ปุ่นเท่าไร ถ้าเพิ่มวาซาบิละลายลงไปในน้ำยำอีกนิด น่าจะถูกใจผมกว่านี้
แต่ด้วยราคา 140 บาท แล้วเทียบกับปริมาณของแซลมอนที่ให้มาก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ

- เห็ดหอมนึ่งหมูสับไข่เค็ม (140บาท)
เมนูออกแนวจีนๆหน่อย แต่อร่อยล้ำทีเดียว โดยมีเห็ดหอมวางด้านล่างไว้เป็นฐาน แล้วเอาหมูสัปที่ปรุงรสผสมไข่เค็มแล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆวางบนเห็ดอีกที แล้วเอาไปนึ่งสุก ในภาพจะมองไม่เห็นไข่เค็มเพราะมันแทรกซึมลงไปบนตัวหมูแล้วนั้นเอง แต่เมนูนี้อร่อยมาก แต่ได้กินแค่นิดเดียวเอง โดนน้อง(ซึ้งไม่ชอบเมนุเผ็ดๆ)มาแย่งกินแต่เมนูนี้จนเกือบไม่เหลือให้เราได้ชิมเลย

ราคาอาหารของร้านพลูเฮ้าส์นี้คือว่าทำราคาออกมาได้คุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับปริมาณของอาหารและรสชาติที่ได้ลองไปแล้ว คนกรุงเทพแบบเรา เคยเจอแต่อาหารราคาค่อนข้างสูงๆในตัวเมือง พอได้มากินของอร่อยๆในราคาที่ตั้งแบบนี้ จึงถือว่าคุ้มค่ามากๆทีเดียว

[Drink and Dessert]
- Blue Hawaii italian Soda 40 บาท
น้ำบลูฮาวายสีฟ้าสดใส เสิร์ฟมาในแก้วมัคสุดฮิต ที่ร้านอาหารคูลๆสมัยนี้นิยมกัน (ขายราคานี้คือถูกมากนะ ในกรุงเทพนี้ 55-60 กันหมดแล้ว)

- นมสดโอรีโอปั่น 60 บาท
นมสดปั่นกับโอรีโอ (แต่วันที่ไปกินโอรีโอหมด เลยใส่ฟันโอมาแทน 555 ) เสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง

- Green Apple yogurt smoothie 60 บาท
แอปเปิ้ลเขียวปั่นผสมโยเกิร์ตลงไปด้วย แก้วนี้ผมไม่ได้ชิม ได้แต่กลิ่นหอมๆ น่าทานทีเดียว

- บิงซูแตงโม 139 บาท
ของหวานสุดฮิตสไตล์เกาหลีอย่างบิงซู ที่ร้านก็มีขายนะ ทำออกมาดูดีมากๆเลยทีเดียว ตอนเสิร์ฟมาที่โต๊ะหันไปดูราคาอีกที ยังงงว่าสั่งไม่ผิดใช่มะ ราคานี้จริงๆเหรอ
เพราะจัดแต่งมาดูดีมาก ตักแตงโมออกมาเป็นก้อนกลมๆ ก่อนแล้วค่อยเอาเกล็ดนมน้ำแข็งมาสไลด์ใส่ลงไปบนลูกแตงโมที่ตักเนื้อออกไปแล้ว ราดนมข้นหวานลงไปอีกนิด เสิร์ฟมาบนชามไม้ ดูเก๋ไก๋มากทีเดียว

ร้าน Plu House Sattahip นี้ถามทางร้านแล้วร้านเปิดทุกวันนะครับ ตั้งแต่ 11 โมงเช้า ยัน 22.00 น.เลย ตอนช่วงหัวค่ำประมาณ 6โมงกว่าๆ นี้มีดนตรีสดมาเล่นให้ฟังด้วย ใครสนใจมาทานมื้อค่ำ นั่งทานข้าวชิลล์ๆ ฟังเพลงเพลินๆนี้แนะนำเลย



ปลากะพงทอดราดยำสมุนไพร
เป็นรูป: อาหาร

เห็ดหอมนึ่งหมูสับไข่เค็ม
เป็นรูป: อาหาร

กุ้งอบวุ้นเส้นหม้อดิน
เป็นรูป: อาหาร

บิงซูแตงโม
เป็นรูป: อาหาร

ลาบเป็ดคั่ว
เป็นรูป: อาหาร

บรรยากาศชิลล์ริมสระน้ำ ดูน่านั่งมากทีเดียว
เป็นรูป: อาหาร
แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ

BTS-เอกมัย
คอมเม้นต์ที่ 1
(13 พ.ย. 2016 ตอน 16:07 น)
Nikko Cafe คาเฟ่ชิลล์ๆ นั่งฟินๆ ในวันสบายๆ
รสชาติ
บรรยากาศ
บริการ
คุ้มค่า

วันนี้ขอมารีวิวร้านคาเฟ่น่ารักๆ สไตล์มินิมอล เจแปนนีส ร้าน Nikko Cafe (นิกโกะ คาเฟ่) อยู่ที่ซอยเอกมัย12

พิกัดของร้านนิกโกะ คาเฟ่ เอกมัย
ร้านจะอยู่ในซอยเอกมัย12 ถ้ามาจากเส้นสุขุมวิท ก็วิ่งเข้าซอยสุขุมวิท63 ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตุขวามือเจอซอยเอกมัย12 ก็เลี้ยวเข้ามา ขับตรงมาอีกประมาณ 300 เมตร ร้าน Nikko Cafe จะอยู่ด้านขวามือ เป็นร้าน2ชั้น
ตอนนี้ถนนหน้าร้านขยายมากขึ้นเป็น 3-4 เลนแล้วด้วย เมื่อก่อนถนนจะแค่2เลนเท่านั้น ร้านนิกโกะก็ปิดร้านไปรีโนเวทใหม่ พร้อมๆกับถนนหน้าร้านไปพร้อมกัน
ถ้าขับรถมาที่ร้านก็สามารถจอดรถหน้าร้านได้เลย บริเวณหน้าร้านจอดได้ 6-7คัน แต่ถ้าโซนหน้าร้านเต็ม ก็สามารถไปจอดริมถนนถัดจากร้านได้ มีพื้นที่ว่างเยอะเลยจอดได้อีก8-9คันสบายๆ

[Decor]
สไตล์การตกแต่งของร้านนิกโกะ คาเฟ่ จะเป็นแบบ Minimalist Japanese Style คือเรียบง่าย แต่ดูดีในสไตล์ญี่ปุ่น เน้นเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้สีโอ๊คธรรมชาติ ให้Mood&Tone ดูอบอุ่น นั่งชิลล์ รอบๆร้านมีต้นไม้เยอะ ภายในร้านก็มีสวนต้นไม้ขนาดย่อมๆอยู่ เลยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ มีโซน Outdoor เป็นโต๊ะเก้าอี้หวายท่ามกลางต้นไม้เขียวๆ น่านั่งดี // มีห้องกระจกเล็กๆมีโต๊ะอยู่ 2-3 ตัวมุมนี้ก็มานั่งเมาส์มอยกับเพื่อนได้เช่นกัน แต่ถ้าอยากได้ความสงบหน่อยมีโซนชั้น2ของร้าน จะมีห้องแอร์ไว้นั่งทำงาน อ่านหนังสือ พร้อมจิบกาแฟได้ / และก็มีโซน Outdoor ชั้น2 เป็นโซฟาหนังพร้อมหมอนใบใหญ่ บรรยากาศดูโล่งสบาย พร้อมทิวทัศน์รอบข้าง
เนื่องจากตัวร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งได้ ทำให้เหมาะสำหรับคนที่จะมาที่นั่งทำงาน, มานั่งคุยกับเพื่อน ,มานั่งอ่านหนังสือ, หรือถ้าค่ำๆหน่อยก็มานั่งแฮงค์เอ้าท์กันได้ยาวๆ


[Food]
มาเข้าเรื่องอาหารกัน ร้านนี้ตอนแรกเปิดเป็นร้านกาแฟมาก่อน จึงมีเครื่องดื่มประเภทกาแฟและชา ครบครัน และตอนนี้มีอาหารจานเดียวเพิ่มขึ้นมาหลากหลายชนิดทีเดียว เช่นสปาเก็ตตี้ สลัด ข้าวหน้าญี่ปุ่นแบบต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจานเดียวแบบทานง่ายๆในราคาไม่แพงนัก
วันนี้กรุ๊ปเราก็ทะยอยสั่งของกินมาลองทานกันหลายๆแบบ ดังนี้

- Chicken Nanban Tartar Sauce (Open Sandwich) 170 บาท
ร้านเรียกว่าโอเพ่นแซนวิช ดูจากหน้าตาที่เสิร์ฟมาเลยขอเดาว่าเป็นแซนวิช ที่มีขนมปังมาด้านเดียว (ไม่ได้ประกอบ2ด้านเหมือนแซนวิชทั่วๆไป) โดยมีไก่ทอดชิ้นโตอยู่ข้างบน พร้อมราดทาร์ทาร์ซอสมาด้วย มีผักสลัดพวกกรีนโอ๊ค เรคโอ๊ค และฟิลเล่ย์พร้อมราดน้ำสลัดงาคั่วแบบญี่ปุ่น
ใช้มีดหั่นๆ ทานกินคู่กันทั้งเนื้อไก่+ขนมปัง แกล้มด้วยผักสลัด รสชาติเข้ากันดีทีเดียว จานนี้มาทานเป็น Breakfast ยังได้เลย

- 3 Days ago Ribs (หมู3วัน) 175 บาท
เมนูชื่อแปลกนี้ ได้การันตีจากรายการ The Dish เมนูทอง ช่องเวิร์คพ้อยท์มาด้วย เป็นซี่โครงหมูที่หมักนานถึง3วัน ก่อนนำมาอบเสิร์ฟให้ลูกค้า ทำให้เนื้อหมูนุ่มมาก แค่ปาดมีดลงไปเบาๆ เนื้อหมูก็ร่อนออกจากกระดูกซี่โครงแล้ว สมคำล่ำลือจากทางรายการ
เสิร์ฟมาพร้อมผักสลัดกรีนโอ๊คและใบฟิลเล่ย์เช่นเคย พร้อมมะเขือเทศซัลซ่า เมนูนี้อร่อยแย่งกันทาน แป็ปเดียวหมด จนต้องสั่งกลับบ้านอีก 2 ชุด [จานนี้แนะนำคับต้องมาลองกัน]

- Spaghetti Pesto Bacon 200 บาท
ต่อกันด้วยสปาเก็ตตี้เพสโต้เบคอน เส้นสปาเก็ตตี้ลวกมาสุกแบบอัลเดนเต้ มีความหนึบๆกรุบๆอยูด้านในนิดๆ คลุกเคล้ากับซอสโหระพา และมีเบคอนชิ้นใหญ่ๆ ให้มาเยอะพอสมควร ตัวซอสเพสโต้ทำออกมาได้ค่อนข้างดี หอมกลิ่นโหระพาและน้ำมันมะกอกกำลังดี

- Teriyaki Chicken Salad 180 บาท
สลัดผักพร้อมไก่ย่างเทริยากิ ขอบอกเลยว่า ไก่นุ่มมากๆ แถมชิ้นใหญ่อีกด้วย ตัวซอสเทริยากิเข้าถึงเนื้อในกำลังดี กินพร้อมกับผักสลัดหลากหลายชนิดทั้งกรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค ฟิลเล่ย์ มะเขือเทศราชินี ผักกาดแก้ว ราดมาด้วยน้ำสลัดงาซีอิ๊วญี่ปุ่นออกรสเปรี้ยวๆ ตัดรสชาติของไก่ย่างได้ดีทีเดียว จานนี้แนะนำเลยต้องมาโดนกัน

- Taco Rice 200 บาท
เห็นชื่อแปลกๆ ลองสั่งมาทานดู ออกแนวฟิวชั้นอาหารแม็กซิกันผสมญี่ปุ่น คือชั้นล่างสุดเป็นข้าวแบบญี่ปุ่น ถัดขึ้นมาเป็นหมูปรุงรสกับเครื่องเทศสไตล์แม็กซิกัน ถัดมาอีกชั้นเป็นชีสขูด ด้านบนสุดเป็นมะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นๆ เวลาทานจะตักลงไปให้ได้ส่วนประกอบมาทั้ง 4 อยู่ผสมกันเลยก็ได้ หรืออยากจะคลุกเคล้ากันแล้วค่อยทาน ก็ตามแต่ความชอบ ส่วนตัวว่าแปลกดีเมนูนี้ แต่ถ้ามาสั่งเมนูนี้จานเดียว จะออกติดรสเลี่ยนไปหน่อย...อยากแนะนำทางร้านให้เพิ่มผักบางตัวหรือวัตถุดิบบางอย่างที่ตัดรสชาติมาช่วยเติมในเมนูนี้หน่อย...น่าจะดีขึ้น..... ลืมบอกไปจานนี้เสิร์มาพร้อมกับน้ำซุปมิโสะ ด้วยอีก 1 ถ้วย ซุปมิโสะสูตรของร้านนี้แปลกกว่าทั่วๆไปคือใส่เผือก หั่นเป็นเต๋าลูกเล็กๆใส่ลงมาด้วย

[Drinks]
เครื่องดื่มเราก็สั่งมาลองกันหลายแก้ว ส่วนตัวคิดว่าที่นี้มีซิกเนเจอร์เจ๋งๆที่เป็นเครื่องดื่มหลายตัวเลย ทำออกมาได้มีเอกลักษณ์ของร้านมากๆ
- Iced Caramel Macchiato 125 บาท
แก้วแรกเป็นกาแฟคาราเมล มัคคิเอโต้ รสชาติกาแฟเข้มข้นกำลังดี

- Apple Mint Soda 100 บาท
แก้วนี้น้องสั่งมา ผมไม่ได้ชิม แต่ตกแต่งสวยงาม มีชิ้นแอปเปิ้ลฝ่านใส่มาด้วย น่าจะสร้างความสดชื่นได้ดีทีเดียว

- Cold Brew Sencha 125 บาท
เป็นชาเซนชะแบบสกัดเย็น ตัวแนะนำของทางร้านที่โชร์อยู่ในตู้กระจกตรงเคาเตอร์ ลองสั่งมาชิมดู เสิร์มาแบบเก๋ไก๋ดูดีทีเดียว มาพร้อมแก้วน้ำแข็งที่ใส่เลมอนฝ่านมาให้ รินชาลงแก้ว เวลาดื่มได้รสชาติชาเซนชะพร้อมหอมกลิ่นเลมอน สร้างความสดชื่นได้มากทีเดียว
ในตระกูล Cold Brew ยังมีให้เลือกเป็น Black Coffee และ Milk Coffee ไว้วันหลังค่อยไปลองตัวอื่นๆอีกที

- Passionfruit Tea 150 บาท
เป็นชาที่ทำจากเสาวรส เสิร์ฟใส่แก้วทรงกลมๆเตี้ยๆหน่อย พร้อมฝ่านผลเสาวรสที่มียังมีเนื้อและเมล็ดติดมาด้วยส่วนนึง เสียดายแก้วนี้ผมไม่ได้ชิม

ต่อกันที่หมวด [Nikko Signature] ของร้านเป็นตระกูลที่ผมว่า ต้องสั่งเลยถ้ามาที่ร้านนี้
- The Chocolate (Frappe) 160 บาท
คือหมวดนิกโกะ ซิกเนเจอร์ของร้าน เขาจะตั้งชื่อเป็น The Chocolate , The Coffee อะไรแบบนี้ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะสั่งแบบ Hot , Cold , Frappe อย่างแก้วแรกนี้สั่ง The Chocolate Frappe ก็มาเป็นโกโก้ปั่น ราดซอสช็อคโกแลตไว้ที่ฐานแก้ว แล้วเพิ่มวิปครีม ท็อปด้วยช็อคชิพอีกเล็กน้อย แก้วนี้คนรักช็อคโกแล็คห้ามพลาดที่เดียว รสชาติดี ดูดไปเคี้ยวไปด้วย

- The Coffee (Hot) 130 บาท
นิกโกะซิกเนเจอร์ ตัวที่เป็นกาแฟ น้องสั่งมาเป็นแบบร้อน เสิร์ฟมาพร้อมมาร์ชเมลโล่ด้วย (ส่วนตัวชอบวิธีการพรีเซนเตชั่นและการจัดวาง) ของทางร้านมากๆ เลือกภาชนะและวิธีการเสิร์ฟมาแบบที่เรียกว่าเป็นใคร ก็ต้องยกมือถือมาถ่าย Snap ภาพไว้ก่อนกินแน่ๆละ

- The Matcha (Cube) 165 บาท
แก้วสุดท้ายในตระกูลนิกโกะซิกเนเจอร์ที่สั่งมา ขอลองแบบชาเขียวบ้าง เป็นอีกแก้วที่มีกิมมิคในการทานเช่นกัน คือเป็นมัทฉะที่เอาไปทำเป็นน้ำแข็งก้อนๆ แล้วก่อนทานเราก็เทราดด้วยชาเขียวนม ปล่อยให้ละลายสักนิดแล้วค่อยทาน
ตัวก้อนๆมันมีหลายๆสี ผมไม่แน่ใจว่าสีก้อนออกส้มๆและเขียวอ่อนคืออะไร แต่ผมได้ลองกินก้อนสีเขียวเข้มไป มันคือมัทฉะเข้มข้นมากๆ เป็นอีกแก้วที่ชอบกิมมิคในการนำเสนอของร้านนี้

[Desserts]
มาต่อที่หมวดขนมหวานกันบ้าง วันนี้สั่งมาลอง 3 เมนูคือ
- Belgian Chocolate Raspberry Lava 200 บาท
ช็อคโกแลตลาวา ที่มีไส้ในเป็นซอสราสเบอร์รี่ เสิร์ฟมาพร้อมไอติมอีก1สกู๊ปและวิปครีม ปกติไอติมที่เสิร์ฟมาจะเป็นวนิลลาแต่เราก็สามารถสั่งเปลี่ยนรสชาติเป็นอย่างอื่นได้นะ อร่อยกำลังดี เสียดายนิดที่ว่าซอสราสเบอร์รี่ภายในมันหนืดไปหน่อย เลยไม่ไหลเยิ้มออกมาให้เห็น

- French Toast with Ice Cream 180 บาท
หน้าตาดูดีมาก เป็นขนมปังชุปไข่นำไปปิ้งบนกระทะ หั่นออกมาเป็นแท่งๆ จัดเรียงมาแบบในรูป มีไอศกรีมคุกกี้แอนด์ครีมใส่ไว้ตรงกลาง พร้อมสตรอเบอร์รี่สดหั่นจัดวางให้สีตัดกันเล็กน้อย โรยด้วยไอซ์ซิ่งให้ฟิลลิ่งเหมือนหิมะ เสิร์ฟพร้อม Maple Syrup ให้เรามาราดเองก่อนทาน จานนี้ขนาดอิ่มๆกันแล้ว ยังหมดเกลี้ยงภายในพริบตา

- Melon Katsuo (เมล่อน ปลาแห้งคัตซึโอะ) 135 บาท
เมนูนี้ผมเคยเห็นครั้งแรกที่ร้านโคโรฟิลด์ ราชบุรี แต่ของร้านนิกโกะจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว ของที่นี้จะหั่นเมล่อนออกมาเป็นชิ้นๆ ใส่ถ้วยมาแล้วมีปลาแห้งคัตซึโอะ (แบบที่โรยหน้าโอโคโนมิยากินั้นแหละ) โรยมาด้วย ส่วนตัวเป็นคนชอบกินไอ้เจ้าปลาแห้งคัตซึโอะอยู่แล้ว มาเจอเมนูนี้ต้องลองเลย โดยทางร้านมีนมข้นหวานใส่กาเล็กๆ มาให้ราดด้วย หากชอบหวานหน่อยก็ราดได้ แต่จริงๆผมชอบกินแบบเมล่อน+ปลาคัตซึโอะแค่นี้ก็ฟินแล้ว
ดูเป็นเมนูที่ไม่น่าจะเข้ากันได้เลยเนอะ มันคือผลไม้กะของคาวที่เป็นปลาแห้ง แต่พอมาจับคู่รวมกันแล้ว กลายเป็นรสชาติที่อร่อยมาก เวลากินจะได้สัมผัสชุ่มฉ่ำตอนเคี้ยวเมล่อนและได้รสเค็มนิดๆจากปลาคัตซึโอะ



เป็นรูป: บรรยากาศ

หมู3วัน
เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร
แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ

BTS-เอกมัย
คอมเม้นต์ที่ 2
(24 พ.ย. 2016 ตอน 23:42 น)

Nikko Cafe นั้นเป็นคาเฟ่สไตล์นั่งชิลสบายๆในซอยเอกมัย12 มีให้บริการครบครันทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มนะครับ วันนี้เลยขอจัดเมนูแนะนำมาหลายเมนูเลย

เนื่องจากได้ดูรายการ The Dish เมนูทอง เทปที่ทางร้านได้ไปออกรายการ เลยขอสั่งจานนี้มาลิ้มลอง "หมูสามวัน" ซี่โครงหมูที่หมักกับซอสสูตรพิเศษถึงสามวันเพื่อความนุ่ม นำไปย่างจนสุกหอม ทานคู่กับซัลซ่าสลัด จานนี้ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดนะครับ เพราะทานง่ายมากๆ เอามีดกดนิดเดียว เนื้อก็หลุดออกจากกระดูกแล้ว แถมรสชาติก็เข้มข้น ชุ่มฉ่ำน้ำเนื้อ จานนี้ประทับใจมากๆครับ

และที่ห้ามพลาดอีกก็ได้แก่ "ชิคเก้นนัมบันทาทาร์ซอส" หรือแซนวิชไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น ที่นำขนมปังแผ่นไปกริลล์จนหอมเนย แล้ววางด้วยไก่ทอดชิ้นโตกรอบนอกนุ่มใน ทานกับทาทาร์ซอสครับ

"ข้าวทาโก้" อาหารเม็กซิกันแบบฟิวชั่นด้วยการนำข้าวสวยมาใช้แทนแผ่นแป้งทาโก้ โดยชั้นล่างสุดเป็นข้าวญี่ปุ่นนุ่มลิ้น ตามด้วยหมูผัดเครื่องเทศสไตล์เม็กซิกัน ต่อด้วยมอสซาเรลล่าชีสมาแบบพูนๆ ตบท้ายชั้นบนสุดด้วยมะเขือเทศสดหั่นเต๋า วิธีการทาน จะตักทานไปเรื่อยๆ หรือคลุกให้เข้ากันแล้วทานก็ตามใจชอบเลยครับ มีมะนาวหั่นซีกมาด้วยเผื่อใครชอบความจัดจ้านครับ

หรือเมนูเพื่อสุขภาพสำหรับคุณผู้หญิงก็มีนะครับ "สลัดไก่เทริยากิ" ผักสดกรอบราดด้วยน้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่นเข้ากับความกลมกล่อมเนื้อไก่เทริยากิได้เป็นอย่างดีครับ

นอกจากเมนูอาหารคาว ก็ขอแนะนำของหวานอร่อยๆด้วย "เบลเยี่ยมช็อกโกแลตไส้ราสเบอรี่"ทำคล้ายๆกับช็อกโกแลตลาวา แต่เปลี่ยนไส้ลาวาข้างในเป็นราสเบอรี่แทน ความเปรี้ยวหวานของราสเบอรี่ตัดกับความขมของช็อกโกแลตได้ดีมากๆ ตัวไอศกรีมที่เสิร์ฟมาก็สามารถเปลี่ยนรสชาติได้นะครับ

หรืออีกเมนู "เฟร้นช์โทสกับไอศกรีม" ที่นำขนมปังชุบไข่ไปกริลล์จนหอมกรุ่น จัดตกแต่งพร้อมไอศกรีมและสตรอเบอรี่ ราดน้ำเชื่อมเมเปิ้ลแล้วทาน ฟินมากๆครับจานนี้

สำหรับเครื่องดื่ม ที่นี่ก็มีให้บริการทั้งชา กาแฟ และน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพครับ

ที่สั่งมาลองก็ได้แก่ "Cold Brew Sencha" ที่ได้จากการนำใบชามาสกัดเย็น ทานกับเลม่อน ตัวชาเองจะออกรสฝาด เข้ากันความสดชื่นของเลม่อนได้เป็นอย่างดีครับ
หรือถ้าเป็นคอช็อกโกแบต ขอแนะนำ "The Chocolate Frappe" ที่นำน้ำช็อกโกแลตเข้มข้นปั่นพร้อมกับช็อกโกแลตชิพ ท็อปปิ้งด้วยวิปครีมนุ่มฟู เข้มข้นมากๆครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
goo.gl/VwxdD7
ขอบคุณครับ


"NIKKO CAFE" ร้านเด็ดที่มาแอบซ่อนตัวอยู่ในซอยเอกมัย 12 นี้ ถ้ามาจากเส้นสุขุมวิท ก็วิ่งเข้าซอยสุขุมวิท63 ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตุขวามือเจอซอยเอกมัย12 ก็เลี้ยวเข้ามา ขับตรงมาอีกประมาณ 400 เมตร ร้าน Nikko Cafe จะอยู่ด้านขวามือ
เป็นรูป: บรรยากาศ

ป้ายเกียรติยศของรายการ The Dish เมนูทอง กับเมนู หมูสามวัน (3 Days Ago Ribs) พลาดไม่ได้แน่นอนเมนูนี้!
เป็นรูป: บรรยากาศ

นอกจากที่นั่งชั้น 1 แล้วก็มีข้างบนให้ชิลล์ๆกันอีกครับ โซนห้องนี้มีลูกค้าใช้บริการเยอะมากครับ เป็นคาเฟ่ที่นั่งนั่งชิลล์ปั่นงาน คุยงานมากๆ เลย
เป็นรูป: อาหาร

[Belgian Chocolate Raspberry Lava]ปกติทางร้านจะเสิร์ฟเป็นไอติมวานิลลา แต่ก็สามารถเปลี่ยนรสชาติได้นะครับ เลยเลือกเป็นช็อกโกแลตมา เบลเยี่ยมช็อกโกแลตไส้ราสเบอรี่ รสชาติเข้มข้นของช็อกโกแลตเข้ากันได้ดีกับความเปรี้ยวของซอสราสเบอรี่ อร่อยมากๆ
เป็นรูป: อาหาร
แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ

คอมเม้นต์ที่ 1
(20 ธ.ค. 2016 ตอน 02:58 น)
ร้านบุฟเฟ่ต์เกาหลีสไตล์แท้ๆ สุดคุ้มค่า อร่อยจริงไรจริง "DooRae" @ ชั้น 2 BeeHive เมืองทองธานี
รสชาติ
บรรยากาศ
บริการ
คุ้มค่า

ร้านอาหารเกาหลีที่มีให้บริการครบครันทั้งปิ้งย่างและอาหารจานเดียวสไตล์เกาหลีแท้ๆออริจินัลกันเลยร้านนี้
ร้าน Doorae ตั้งอยู่ที่คอมมูนิตี้มอลล์ BeeHive ที่เมืองทองธานีครับ มีที่จอดรถสะดวกสบาย หรือท่านใดมาเดินงานที่อิมแพค เดินเที่ยวเสร็จแล้วมาทานอาหารต่อที่นี่เลยก็ใกล้ๆครับไม่ต้องทนหิวจาการรถติดในเมืองแน่ๆเพราะร้าน Doorae เป็นร้านอาหารเกาหลีแท้ๆ ที่รองรับศิลปินเกาหลีที่เดินทางมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยครับ นอกจากจะทำอาหารส่งให้แล้ว บางทีศิลปินก็มาทานถึงที่ร้านเลยครับ
ดังนั้นหายห่วงเรื่องคุณภาพ บริการที่ดี รวมถึงรสชาติได้เลยเป็นที่แนะนำขนาดนี้
ครั้งนี้ผมทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง และสั่งอาหารจานเดียวเพิ่มอีกนิดหน่อยครับ ซึ่งในส่วนของบุฟเฟ่ต์นั้น มีราคาอยู่ที่ 349 บาท ซึ่งเป็นราคาเน็ท ไม่มีบวกเพิ่มใดๆทั้งสิ้นครับ
ในราคานี้ จะทานหมู ไก่ และเครื่องเคียงสไตล์เกาหลีได้ไม่อั้น แต่ไม่รวมเนื้อวัวครับ ถ้าจะทานเนื้อวัวต้องสั่งแยกเป็นจานๆครับ หรือถ้าท่านใดคิดว่าทานบุฟเฟ่ต์ไม่คุ้ม จะสั่งเป็นอะลาคาร์ท ทางร้านก็มีให้บริการครับ
สำหรับเมนูปิ้งย่างผมสั่งมาหลายจาน ที่เด็ดๆขอแนะนำเลยคือ เซ็งคาลบี้หรือซี่โครงเนื้อย่าง เป็นเมนูอะลาคาร์ทนะครับ จะเป็นเนื้อแผ่นยาวๆติดส่วนซี่โครง โรยเกลือมาด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ ตัวนี้สุกแล้วทานเปล่าๆก็อร่อย
หรือจะทานแบบเกาหลี โดยเอาเนื้อหาอด้วยผักแล้วทาน ก็ฟินไปอีกแบบครับ อีกจานที่ขอแนะนำคือ ซุปพุนบูลโกกิหรือเนื้อสไลด์บางหมักซอส เป็นจานอะลาคาร์ทครับ
เนื้อสไลด์หมักด้วยซอสผลไม้สูตรพิเศษ ตัวนี้ย่างออกมาแล้วรสชาติหวานหอม ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยครับ และจานที่ห้ามพลาดคือเทจีคาลบี้หรือซี่โครงหมูหมักซอส ตัวนี้จะหมักมากับซอสพริกแบบเกาหลี
รสชาติเผ็ดนิดๆ อร่อยมากครับ
นอกจากเมนูปิ้งย่างแล้ว ผมก็สั่งเมนูแนะนำของทางร้านมาลองด้วย แน่นอนว่ามาทานอาหารเกาหลีก็ต้องมีโสม เลยสั่ง ซัมเกทังหรือซุปไก่ตุ๋นโสมครับ หม้อนี้ 420 บาท
อาจจะดูแพง แต่หม้อนี้เป็นไก่ทั้งตัวยัดไส้ด้วยโสม ข้าวเหนียว พุทรา เกาลัด และเก๋ากี้ นำไปตุ๋นในน้ำซุป ซึ่งซุปนี้มีให้เลือกสองแบบนะครับ คือซุปเนื้อกับซุปปลา
ท่านใดไม่ทานเนื้อก็รีเควสซุปปลาได้เลย เสิร์ฟในหม้อร้อนสไตล์เกาหลี ตัวนี้ทานแล้วชุ่มชื่น ไก่ตุ๋นมากำลังดีเอาตะเกียบคีบเนื้อก็หลุดออกจากกระดูกง่ายดายครับ ข้าวเหนียวที่ยัดไส้มาก็หอมอร่อย
หม้อนี้แนะนำให้สั่งเลยครับ และที่ห้ามพลาดอีกคือ ยุคเคบีบิมบับหรือข้าวยำเนื้อสด 330บาท ข้าวยำสไตล์เกาหลีประกอบด้วยผักนานาชนิด
ทั้ง ซุคินี่ ถั่วงอกหัวโต หัวไชเท้า ปวยเล้ง สายบัว แครอท มะละกอ ท็อปปิ้งด้วยเนื้อสดและไข่แดง เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ ใส่โคชูจัง คลุกให้เข้ากันแล้วทานตอนร้อนๆอร่อยมากครับ
นอกจากอาหารคาวแล้วก็ยังมีของหวานเป็นบิงซูด้วยครับ ขอแนะนำ บิงซูมะม่วง ที่เสิร์ฟมาพร้อมเนื้อมะม่วงสุกหอมและซอสมะม่วงเพิ่มความอร่อย และบิงซูชาเขียวถั่วแดงรสชาติเข้มข้นครับ
ใครพลาดร้านนี้ไปนี่ต้องคิดใหม่อีกทีเลยครับไม่เชื่อต้องไปลองครับ
อ่านReviewฉบับเต็มได้ที่
https://goo.gl/bux140


ร้านนี้ตั้งอยู่ที่คอมมูนิตี้มอลล์ BeeHive เมืองทองธานีครับ ไม่ไกลจาก Arena เลย ขึ้นมาชั้นสองเจอร้านใหญ่ๆนั่นไม่ผิดแน่นอน ร้านอยู่ชั้นสองฝั่งริมห้างครับ
เป็นรูป: บรรยากาศ

บุฟเฟ่ต์จะมีราคาอยู่ที่349net ทาน หมูไก่ และเครื่องเคียงได้ไม่อั้นไม่รวมเนื้อวัว ถ้าจะทานเนื้อวัวต้องสั่งแยกเป็นจานๆเท่านั้น หรือทานใดไม่ทานบุฟเฟ่ต์ ก็ทานเป็นอะลาคาร์ท สั่งได้ทั้งหมู เนื้อและไก่ครับ
เป็นรูป: บรรยากาศ

เครื่องเขียงเกาหลีแท้ๆ มาเสิร์ฟ น่าทาน หลายๆ อย่างอร่อยมากครับ ติดใจ เติมได้อีกไม่อั้น คุ้มจริงๆ
เป็นรูป: อาหาร

เซ็งดึงชิม • หรือเนื้อสันนอกย่างครับ จานนี้สั่งแยกมาเช่นกัน 550 บาท มาชิ้นเบิ้มเต็มเตาเลยครับ
เป็นรูป: อาหาร

บิงซูของหวานที่นี่ก็แจ่มมากๆครับ อิ่มหำใจครบถ้วน แน่นท้องสบายใจกันไปเลยครับ
เป็นรูป: อาหาร
แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ
เกลียดผู้การสาขานี้
(ไม่ใช่สมาชิก)

MRT-พระราม 9
คอมเม้นต์ที่ 2
(24 เม.ย. 2013 ตอน 13:46 น)
ร้านอาหารสกปรกที่สุด

วันนั้นกลางเดือนมีนาคมผมได้ไปทานอาหารร้านนี้สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 อ่ะคับสั่งสปาเก็ตตี็ปลาเค็มเจอเส้นผมยังพอทน นะ เเต่ ขวดน้ำดื่มสิคับ มันมีหนอนขยะอยู่ตรงใต้ขวดน้ำด้วยอ่ะเเละยังมีหนูวิ่งอีกอะรัยจะสกปรกปานนี้อ่ะคับ อันนี้คายไม่เชื่อก็ไม่ว่านะคับ

แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ

คอมเม้นต์ที่ 2
(23 ธ.ค. 2016 ตอน 16:23 น)
ร้านเกาหลี อร่อยเลอค่า ในย่านเมืองทองธานี DooRae @BeeHive Mall
รสชาติ
บรรยากาศ
บริการ
คุ้มค่า

วันนี้ขอมารีวิวร้านอาหารเกาหลี อร่อยเลอค่า ในย่านเมืองทองธานี กันนะคับ ร้านที่ว่าคือ DooRae Korean BBQ Restaurant หรือภาษาไทยอ่านว่าร้านดูเร

[พิกัด]
ตั้งอยู่ในห้าง BeeHive เมืองทองธานี (ตรงข้ามกับ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช) ร้านอยู่ชั้น2 เดินขึ้นบรรไดเลื่อนมาหาไม่ยากคับ อยู่ตำแหน่งเดียวกับ Tops Market แต่อยู่ชั้น2 ร้านนี้พื้นที่ค่อนข้างกว้างมากทีเดียว ใครสนใจอยากเหมาร้าน เพื่อจัดงานเลี้ยง 100 - 150 คนนี้ได้สบายๆเลย
ที่จอดรถก็จอดในห้างได้มากมาย หลายร้อยคัน ถือว่าสะดวกมากทีเดียว

[Decor]
ร้านตกแต่งผสมผสานกันระหว่างความเป็นเกาหลีดั้งเดิมและโมเดิร์นเกาหลีอย่างลงตัว ภายในร้านจะมีโต๊ะอยู่เยอะพอสมควร จัดเป็นซุ้มๆสีขาวๆ โต๊ะเก้าอี้ ให้ความรู้สึกดูดี มีเกรด มีความเป็นร้านระดับ Fine Restaurant เลยทีเดียว
โต๊ะอาหารจะเป็นโต๊ะหินอ่อน ที่ฝั่งเตาไว้ภายในโต๊ะเลย ทำให้ไม่ดูเกะกะ ขณะปิ้งย่าง และระบบดูดควันจะอยู่รอบๆปากเตา ทำให้ไม่เห็นมีท่อดูดควันเกะกะตาเหมือนอย่างพวกร้าน KimJu และร้านเกาหลีอื่นๆ ความเป็นร้านอาหารเกาหลีของร้านนี้ ค่อนข้างเด่นชัดมากๆ อย่างพวกช้อนและตะเกียบเขาก็จะมีกระดาษที่เขียนเป็นภาษาเกาหลี(อ่านไม่ออก)หุ้มไว้อีกชั้นนึง ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานอยู่ ในบรรยากาศร้านแบบเกาหลีมากๆ (คือส่วนตัว ก็กินอาหารเกาหลีมาหลายร้านแล้ว แต่ร้านอื่นๆที่เคยกิน เขาจัดภาชนะ วิธีการเสิร์ฟอะไรต่างๆ ที่บ่งบอกความเป็นไทยอย่างเห็นได้ชัด) แต่ที่สัมผัสได้จากร้านดูเร นี้มันจะอีกอย่างนึงเลย แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

ได้คุยกับผู้จัดการร้าน ก็ได้ความว่า เจ้าของเป็นคนเกาหลี มาเปิดร้านในไทยร้านแรกอยู่ตรง Korean Town สุขุมวิท12 (ที่มีร้านสไตล์เกาหลีเยอะๆอยู่ในนั้น) ตั้งแต่ปี2542 แล้วพอดีมีเพื่อนเจ้าของมาเปิดร้านฟิตเนสที่ห้าง BeeHive แห่งนี้ เห็นทำเลดูดี เลยชวนๆเจ้าของร้านดูเร มาเปิดที่นี้เป็นสาขาที่ 2 ตอนแรกร้านเปิดมาพร้อมห้างบีไฮฟ์ ก็ขายแต่ a la carte อย่างเดียว (เหมือนสาขาแรก) แต่ว่าลูกค้าเข้าน้อย เพราะร้านอาหารใกล้เคียงกัน ก็เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ทั้งนั้น ทั้ง Giant Yakiniku , Buta Shabu และร้านญี่ปุ่นในห้างบีไฮฟ์แห่งนี้ก็ขายแบบบุฟเฟ่ต์กันหลายร้าน แถมย่านนี้เป็นชานเมือง คนไม่เปย์มากเหมือนสาขาที่สุขุมวิท ทางเจ้าของเลยตัดสินใจ เพิ่มรูปแบบ Buffet 349 บาทเข้ามาเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้ามาลองทานที่ร้านบ้าง (ซึ้งจริงๆ ถ้าใครเคยกินร้านดูเรที่สาขาโคเรียนทาวน์ จะรู้เลยว่าเนื้อหมู เนื้อวัวของที่นี้คัดเกรดมาดีมากๆ ในระดับที่ไม่น่าจะมาขายเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ได้ ถ้าเปิดดูราคาในเล่มเมนูจะเห็นได้ชัดเลยว่า แค่หมูหมักซอส 1 จานราคาอะลาคาร์ตก็ตกจานละ 320-350 บาท แต่ร้านใจป้ำมากๆ ที่กล้า ทำราคาบุฟเฟ่ต์คนละ 349 บาท แบบสั่งได้ไม่อั้นขนาดนี้
คือเอาจริงๆนะ ถ้าไปกินกัน 2 คน สั่งเมนูหมูอะไรมาสัก 3 อย่าง กินพร้อมเครื่องเคียงที่ร้านมีให้ไม่อั้นอยู่แล้ว คิดหัวละ 349 บาทนี้ก็คุ้มแล้วละ จานที่4-5-6 เป็นต้นไปนี้คือกำไรคนกินล้วนๆ

[Food]
เข้าเรื่องอาหารกัน มาร้านนี้ต้องจัดบุฟเฟ่ต์เลย คุ้มค่าสุดๆ กับราคา 349 บาท(เนตแล้วด้วย) ทานได้ 1ชั่วโมงครึ่ง สั่งได้ไม่อั้นในเมนูบุฟเฟ่ต์ที่เตรียมไว้ให้ พร้อมผักทุกอย่างสั่งได้ไม่อั้น และกิมจิเครื่องเคียง ทางร้านจะมี 8 อย่างมาเสิร์ฟให้เรา (พนักงานบอกว่า เครื่องเคียงบางอย่างอาจจะทำสลับๆกันไปในแต่ละวัน แต่จะมีกิมจิหลักๆอยู่5อย่างที่มีทุกวันแน่ๆ)
แต่เมนูบุฟเฟ่ต์จะเน้นไปที่เนื้อหมูและไก่ นะคับ ใครอยากสั่งเนื้อวัวมาทาน ต้องสั่งแยกเป็นจานๆไป (ไม่รวมอยู่ในบุฟฯ ก็ต้องยอมเขาหน่อยอะนะเนื้อวัวนำเข้าราคาค่อนข้างแพง แต่เนื้อวัวที่นี้รสชาติมันเยี่ยมมากมายจริงๆนะขอบอก)

-เครื่องเคียง กิมจิและอื่นๆ (เติมได้ไม่อั้นด้วยนะ)
ร้านดูเรนี้ ถ้ามานั่งทานไม่ว่าจะสั่งแบบ A la Carte หรือ Buffet ก็ตามเราจะได้รับการเสิร์ฟเครื่องเคียงมากมาย 8-10 อย่างตระการตาเต็มโต๊ะเลย (เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเลยที่ทำให้ผมปลื้มกับอาหารเกาหลีมั๊กๆ)
อย่างวันที่ไปกินกับแก็งกรุ๊ปได้เครื่องเคียง มา10อย่าง คือ กิมจิผักกาดดอง , กิมจิมะละกอ , กิมจิหัวไชเท้า, สลัดมันฝรั่ง, หอมดอง, หัวไชเท้าดอง, ปลาเล็กปลาน้อยทอดกรอบ, ยำผักโขม, มันฝรั่งชุปแป้งทอด, สลัดผัก

เมนูปิ้งย่างที่สั่งมาทานกัน
- ซี่โครงหมูหมักซอส (เทจิคาลบี้) [เมนูในลิสต์บุฟเฟ่ต์]
- หมูสามชั้นย่าง (ซัมเดฟไซล) [เมนูในลิสต์บุฟเฟ่ต์]
- สันนอกหมูหมักซอส (ซุฟพูนเทจิบูลโกกิ) [เมนูในลิสต์บุฟเฟ่ต์]
- ซี่โครงเนื้อย่าง (เซ็งคาลบี้) 590 บาท [สั่ง a la carte]
- เนื้อสันนอกย่าง (เซ็งดึงชิม) 550 บาท [สั่ง a la carte]
- เนื้อสไลด์บางหมักซอส (ซุฟพุนบูลโกกิ) 400 บาท [สั่ง a la carte]

ชอบปิ้งย่างของร้านนี้ เพราะ
1.พนักงานจะมาช่วยปิ้งเนื้อ กลับเนื้อ ตัดเนื้อให้เราที่โต๊ะเลย (คือไม่ต้องเรียก แต่มาบริการให้ที่โต๊ะเลย) และเตาถ่านของร้านนี้ไฟแรงจริงๆคับ เนื้อชิ้นใหญ่ๆ เอาลงไปย่างแป็ปเดียวเอง กลับข้างแล้ว อีกแปปเดียว ก็สุก พนักงานยังช่วยกรรไกรตัดเป็นชิ้นๆอีก บริการดีงามมาก ไปกินร้านนี้ช่วยๆทิปพนักงานกันด้วยนะ เพราะว่าสาขานี้เขาไม่มี +Service Charge ใดๆแต่ถ้าชอบบริการก็ติปให้หน่อยเป็นกำลังใจกัน
2. ผักกินแกล้มกับเนื้อย่าง-สดและสะอาดมาก คือเขาจะมีชามใส่ผักกาดหอม+กรีนโอ๊คเรดโอ๊ค+ใบงาหรือใบกันหนีฟ เป็นใบคล้ายๆใบโอบะในร้านญีปุ่น แต่ของสไตล์เกาหลี พนักงานบอกว่า ให้เอาใบงา+ผักกาดหอม เป็นฐานแล้วเอาเนื้อย่างจุ่มซอส มาวางแล้วห่อกิน
3. พนักงานสอนวิธีการกินเนื้อย่างสไตล์เกาหลีแท้ๆ ให้ด้วย ไปกินร้านอื่นๆไม่เคยรู้เลยว่าต้องกินกันแบบนี้เราก็มั่วๆกันไปคือปิ้งเนื้อเสร็จก็จุ่มซอสเข้าปากเลย มาร้านนี้พนักงานทำให้ดูเป็นสเต็ปๆเลยว่า step1-2-3-4-5-6 วางอะไรก่อนหลัง ดีงาม
4. เปลี่ยนตะแกรงวางเนื้อย่างให้บ่อยมาก คือไฟมันแรง พอย่างๆไปสักพัก ตะแกรงเริ่มดำนิดๆ แป็ปเดียวก็มาเปลี่ยนตะแกรงให้ใหม่แล้ว (โดยไม่ต้องเรียกขอด้วยซ้ำไป) คร่าวนี้กินกันไปชั่วโมงกว่า เปลี่ยนตะแกรงไป 6 ครั้งได้มั่ง


เมนูอื่นๆที่สั่งมาเพิ่ม
- ซุปไก่ตุ๋นโสม 420 บาท
เป็นไก่ทั้งตัว (ตัวเล็กๆตามสไตล์นั้นแหละ ยัดพวกโสม-ข้าวเหนียว-พุทรา-เก๋ากี้ และเครื่องเทศต่างๆเข้าไปข้างในตัวไก่ แล้วตุ๋นไก่มาทั้งตัว เสิร์ฟมาในหม้อร้อนๆแบบสไตล์เกาหลี เนื้อไก่ตุ๋นมาจนนุ่มมาก กินง่าย รสชาติไม่จัดจ้านมากนัก ตามสไตล์ แต่เป็นเมนูที่กลมกล่อมมากทีเดียว

- ข้าวยำเกาหลีเนื้อสด (ยุคเคบีบิมบับ) 330 บาท
เมนูนี้เป็นของโปรดที่ชอบมากๆ ถ้าไปร้านไหนมีเมนูนี้ต้องสั่งมาลองทุกร้านไป สำหรับที่ร้าน Doorae มีเมนูข้าวยำบิบิมบับ ให้เลือก 4 แบบ ผมเลยขอสั่งแบบ ข้าวยำเนื้อสด คือในชามร้อนที่เสิร์ฟมาก็จะมีข้าว มีผักต่างๆมากมาย พร้อมเนื้อสด และไข่แดง ท็อปปิ้งอยู่ด้านบน ก็ไม่ต้องตกใจว่าจะได้กินเนื้อสดๆหรอกนะ เพราะตามสไตล์ของข้าวยำเกาหลี ชามหินที่มาเสิร์ฟเขาจะทำให้ร้อนมากระดับนึง พอมาเสิร์ฟที่โต๊ะ พนักงานก็ราดซอสโคชูจัง (น้ำพริกเกาหลีสีแดงๆ) ลงไปพร้อมกับทำการคลุกเคล้าส่วนประกอบต่างๆภายในชาม ให้เคล้ากัน ได้เสียงซู้ซ่า พร้อมควันลอยออกมาขณะคลุกนิดๆ ฟีลลิ่งอยากกินมาเต็มเลย

- บูเดจิเก (ซุปหม้อไฟกิมจิใส่มาม่า แฮม ไส้กรอก วุ้นเส้น) 300 บาท
บูเดจิเก หรือซุปหม้อไฟเกาหลี เสิร์ฟมาเป็นหม้อขนาดใหญ่พอควร พร้อมผักหลายอย่าง เส้นรามยอง ไส้กรอก แฮม โบโลน่า หม้อไฟมากทีเดียว ทาน 3 คนก็อิ่มฟินๆเลยนะ
เมนูนี้ก็ตามสไตล์คือ ตั้งไฟให้เดือดแล้วคลุกเคล้าทุกอย่างมารวมกันแล้วตักใส่ชามตัวเองกิน

ป.ล เคยอ่านหนังสือ Korea Diary ของคุณสเลดทอย [สนพ.แซลมอน] เขาเขียนแซวว่าอาหารเกาหลี ส่วนใหญ่ตอนมาเสิร์ฟมักจัดแต่งสวยงาม แต่พอจะกินก็ต้องคลุกทุกอย่างตรงหน้า ให้มันเละเทะแล้วค่อยกิน ซึ้งดูเป็นวัฒนธรรมการกินที่ดูแปลกดี อ่าน Korea Diary แล้วก็เห็นด้วยมากๆกับเรื่องนี้ เพราะหลายเมนูที่เคยกิน มันก็จริงที่ว่าคนเกาหลีเขามักจะคลุกให้มันเละๆรวมผสมกันเป็นเนื้อเดียวกันก่อนแล้วค่อยกิน ทั้งข้าวยำเกาหลี บูเดจิเก ทัลคาลบี้ รวมไปถึงบิงซู ก็ยังต้องคลุกให้มันเละๆก่อนตักกิน

[Dessert]
หลังฟินอาหารหลักไปแล้ว เห็นป้ายสแตนดี้ของร้านมีบิงซูขายด้วย มีอยู่ 5 รสให้เลือก เลยลองสั่งมากิน 2 แบบคือ
- Bingsu Mango 129 Baht
เป็นบิงซูมาในถ้วยขนาดย่อมๆ ไม่เล็กไป ไม่ใหญ่ไป ท็อปปิ้งด้วยมะม่วงสุก หั่นชิ้นใหญ่กำลังดี พร้อมน้ำมะม่วงข้นๆสีเหลืองอ่อนๆ(ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี) ใส่กาอลูมิเนียมดูดีมากๆมาให้เติมเองอีก1กา รสชาติ หวาน หอม มัน อร่อย สูสีกับบิงซูเจ้าดังๆได้เลย

- Bingsu GreenTea 129 Baht
เป็นบิงซูมาถ้วยขนาดเดียวกันกับบิงซูมะม่วง ท็อปปิ้งด้วยผงชาเขียวมัทฉะ ถั่วแดงบด และอินจอลมี (แป้งข้าวเหนียวทรงเต๋าคลุกด้วยผงถั่ว) พร้อมป็อกกี้ชาเขียวอีก2แท่ง มาพร้อมกาใส่นมข้นหวานอีก 1 กา
เมนูนี้ก็อร่อยดี แต่เสียดายที่ชาเขียวมัทฉะมันน้อยไปหน่อย กินแล้วไม่ค่อยได้รสชาเขียวเท่าไรนัก แต่ความนุ่มหนึบของอินจอลมี ราดด้วยนมข้นหวานก็พอกล้อมแกล้มได้อยู่

หลังอิ่มฟินกันไปแล้ว ได้คุยกับทางผู้จัดการร้านดูเร คุยโน้นนี้ไปหลายอย่าง เพิ่งได้รับรู้ว่า เวลามีศิลปินดังๆพวก K-POP จากประเทศเกาหลีมาทัวร์คอนเสิร์ตในไทย ที่ Impact Arena เมืองทองธานี , ทีมงานชาวเกาหลีเขาจะสั่งอาหารของที่ร้านดูเร นี้ไปกินกันหลายมื้อเลยนะ เป็นเสบียงอาหารให้ทั้งทีมงานและศิลปินระหว่างมาซ้อมและเตรียมงานก่อนจัดคอนเสิร์ต (อาจเป็นเพราะร้านนี้ อยู่ใกล้ๆอิมแพคด้วยมั่ง และอีกประเด็นนึงคือ รสชาติอาหารมันคงเป็นรสที่แบบคนเกาหลีกินกันจริงๆแบบออริจินัลที่เขาคุ้นเคย) ผจก.บอกว่า อย่างวง GOT7 , Super Junior นี้คือเวลามีทัวร์คอนเสิร์ตในไทย จะต้องมาสั่งอาหารที่ดูเรให้ไปส่งที่อิมแพคประจำ และมีแบบว่า หลังจบคอน ทีมงานพาศิลปินทั้งวง มาขอปิดร้านแบบไพรเวท กินฉลองกันหลังจบคอนก็มี ผู้จัดการก็บอกว่าเขาต้องการความเป็นส่วนตัวมาก ระดับต้องปิดม่านทั้งหมดไม่ให้คนนอกเห็น และไม่ให้ลูกค้าคนอื่นเข้าร้านเลยนะ (เรียกว่าปิดร้านเหมาเลย) แฟนคลับก็ยืนรออยู่รอบนอกร้าน หวังได้ถ่ายรูปจังหวะเดินมา-เดินกลับ นั้้นแหละ
แต่เราฟัง แล้วก็รู้สึกว่า แปลว่ารสชาติอาหารร้านนี้มันคงเป็นแบบต้นตำรับจริงๆนั้นแหละ ศิลปินยังชอบเลย // ตอนนี้ส่วนตัว ผมติ๊กให้เป็นร้านเกาหลี Top5 ในดวงใจไปเรียบร้อยละ คร่าวหน้าแวะไปแถวเมืองทอง จะไปลองเมนูอื่นๆอีก


เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร

เป็นรูป: อาหาร
แสดงความเห็นเกี่ยวกับรีวิวข้างบนนี้ (ไม่เกิน 255 ตัวอักษร)
กรุณา Login ก่อน เพื่อแสดงความเห็นค่ะ
Showing 301-309 from 309 total
|« First « Prev ... 8 9 10 11 12 13 14 15 16 Next »
Submit feedback to KinnShare
ถ้าคุณต้องการส่ง Feedback ให้ทางทีมงานกินแชร์, แจ้งปัญหาการใช้งานหรือบั๊กของระบบ หรือพบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง คุณสามารถใช้แบบฟอร์มข้างล่างนี้ติดต่อกับเราได้เลยค่ะ
submitting ...